ตำนานแห่งความรักของปราสาททัชมาฮาลแห่งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียโดยเรื่องราวของความรักในครั้งนี้เกิดขึ้นในสมัยของพระจักรพรรดิ ชาห์ ซหาน เป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุลและเป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ของราชวงศ์โดยในครั้งนั้นเป็นการปกครองในช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเรื่องราวความรักของพระองค์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อพระองค์นั้นได้ไปพบรักกับลูกสาวของรัฐมนตรีคนหนึ่งเธอชื่อว่า อรซมันท์ พานุ เพคุม ซึ่งในขณะนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้น
แต่หลังจากที่พระองค์ได้เห็นหญิงสาวคนดังกล่าวพระองค์ก็ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นและเฝ้ารอฟูมฟักความรักของพระองค์มาอย่างยาวนานถึง 5 ปีพระองค์จึงได้อภิเษกสมรสกับหญิงสาวอันเป็นที่รักและครองคู่กันเรื่อยมาโดยพระองค์ได้อภิเษกสมรสกันในปีพ.ศ 2155 และตั้งแต่แต่งงานกันมาพระองค์
ก็มีลูกด้วยกันอยู่หลายคนเลยทีเดียวและไม่เคยคิดจะห่างกันเลยแต่ต่อมาหลังจากที่ครองคู่กันมายาวนานถึง 18 ปี ปรากฏว่าพระมเหสีของพระองค์นั้นได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนที่ 14 แต่เนื่องจากพระองค์ทรงอายุมากและมีการตั้งครรภ์มาแล้วหลายครั้งทำให้การตั้งครรภ์ในครั้งนี้ของพระองค์เกิดตกเลือดและมีผลให้พระมเหสีของจักรพรรดิ ชาห์ ซหานสิ้นพระชนม์
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจักรพรรดิ ชาห์ ซหานก็หมกมุ่นเฝ้าแต่คิดถึงพระมเหสีของพระองค์โดยในทุกๆวันนั้นพระองค์จะนุ่งขาวห่มขาวและเฝ้าคิดถึงแต่พระมเหสีพระองค์จะเป็นนั่งอยู่ที่ด้านข้างของหลุมฝังศพของพระมเหสีตั้งแต่พระมเหสีเสียชีวิตมาก็ไม่เคยมีใครที่จะได้เห็นรอยยิ้มของพระองค์อีกเลยเมื่อเวลาผ่านไปในที่สุดจักรพรรดิ ชาห์ ซหานก็ได้ซองตั้งใจว่า
จะสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของพระองค์ที่มีต่อพระมเหสีด้วยการสร้างปราสาทสีขาวทั้งหลังซึ่งพระองค์ได้หาทำเลที่ดีที่สุดในบริเวณพื้นที่ของพระองค์นั้นก็คือบริเวณริมโขงแม่น้ำยมุนานั่นเองและที่นี่คือที่ตั้งของปราสาททัชมาฮาลซึ่งเป็นประสาทที่จักรพรรดิ ชาห์ ซหานได้นำร่างของพระมเหสีนั้นมาเก็บไว้สำหรับประสาททัชมาฮาลนั้น
ใช้ระยะเวลาในการสร้างยาวนานถึง 22 ปีด้วยกันและต้องใช้คนงานในการก่อสร้างถึง สองหมื่นคน แล้วเมื่อปราสาทนี้สร้างเสร็จจะทำให้จักรพรรดิ ชาห์ ซหาน สูญเสียเงินทองมากมายซึ่งในทุกๆวันนั้นพระองค์จะต้องมาเฝ้ามองปราสาทสีขาวแห่งนี้และจักรพรรดิ ชาห์ ซหาน ยังมีความคิดที่จะสร้างปราสาทสีดำเอาไว้ฝั่งตรงกันข้ามกับประสาททัชมาฮาลโดยพระองค์จะสร้างไว้สำหรับเป็นที่ฝังพระศพของพระองค์เพื่อที่จะได้อยู่คู่กันกับพระมเหสีแต่เนื่องจากความคิดนี้ทำให้ลูกชายของพระองค์นั้น
ได้ทำการปฏิวัติสิ่งราชบัลลังก์ขึ้นเพราะมองว่า จักรพรรดิ ชาห์ ซหานส่งเสียสติไปแล้วและถ้าหากสร้างปราสาทสีดำก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินอีกมากมายดังนั้นเจ้าชายโอรังเซป จึงได้จับจักรพรรดิ ชาห์ ซหานไปขังไว้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับปราสาททัชมาฮาลซึ่งพระองค์ได้แต่มองประสาททัชมาฮาลในห้องคุมขังนั้นนานถึง 8 ปีจึงสิ้นพระชนม์หลังจากนั้นลูกชายของพระองค์ก็ได้มีการนำร่างของพระองค์นั้นไปเก็บไว้ที่ปราสาททัชมาฮาลเคียงคู่กับพระมเหสีของพระองค์นั้นเอง
สนับสนุนโดย เว็บพนัน หวย