ตำนานของ ดงพญาไฟ ป่าอาถรรพ์ผืนสุดท้าย

 ป่าอาถรรพ์ที่มีชื่อว่าดงพญาเย็นแต่เดิมแล้วได้มีชื่อว่าดงพญาไฟ ในจำนวนป่าของไทยสมัยโบรานป่าที่ถูกกล่าวขานถึงความน่ากลัวและมีอาถรรพ์มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นของชื่อป่าดงพญาไฟ ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปในดงพญาไฟก็เป็นเรื่องยากที่จะมีชีวิตรอดกลับออกมาได้

 เนื่องจากภูมิประเทศที่แสนทุระกันดานของเทือกเขาพนมดงรัก

 ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ขวางกั้นระหว่างแผ่นดินที่สูงกว่าของภาคอีสานกับดินแดนทางภาคกลาง จากคำบอกเล่าของมหาสิลา วีระวงส์ บิดาแห่งประวัติศาสตร์ลาว น่าจะเป็นข้อมูลที่เก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงผืนป่าดงพญาไฟ โดยเชื่อว่าป่าผืนนี้มีชื่อเรียกว่าดงสามเส้าในสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม

 ซึ่งยุคต่อๆมานั้นที่ได้มีการรียกดงพญาไฟ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อใหม่ที่เรียกว่าดงพญาเย็น โดยเรารู้จักชื่อนี่กันมานาน โดยเราไม่ทราบได้เลยว่าป่าดงพญาไฟแห่งนี้นั้นได้ขยายไปกว้างใหญ่ขนาดไหน แต่เรามั่นใจได้ว่ามีการกั้นที่ป่าเพื่อเป็นเขตแดนที่มี 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่

1.โคราช หรือว่าจังหวัดราชสีมา      

2.จังหวัดสระบุรี

3.จังหวัดลพบุรี

 

Lotto432 เข้าสู่ระบบ    และเป็นผืนป่าที่แบ่งเขตแดนระหว่างภาคอีสานกับภาคกลาง ซึ่งป่าในแต่ละจุดก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามคนในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งทำให้สภาพภูมิประเทศแถวบริเวณนั้นกลายเป็นป่าทึบ ได้แก่

1.ดงพญากลาง

2.ทุ่งซับจำปา

3.ป่าเหวตาบัว

 

โดยเทือกเขานี้มีลักษณะเด่นเช่นจะเห็นเป็นป่าทึบ จะใช้ทางสำหรับเดินเพื่อเข้าไปในป่านั้นเส้นทางไม่ใหญ่เพียงแค่คนเดินได้เท่านั้น เส้นทางไปยังจังหวัดต่างๆการเดินทางนี้จะมีจะผ่านเข้าไปในป่าลึก ระยะทางอาจจะเจอกับสัตว์ดุร้าย ซึ่งอาจจะพบเหวในระหว่างทางได้

และชาวบ้านยังเชื่อว่าในป่าแห่งนี้มีภูตผีปีศาจ ที่น่ากลัว เล่ากันว่ามีนางตะเคียนหรือมีเสือสมิง อาศัยอยู่ในป่าแห่งนั้น และถ้าไม่ระวังตัวให้ดีหรือไม่เข้าไปพร้อมกับพลานป่าก็อาจจะกลายเป็นอาหารของพวกเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเห้นได้ว่าในป่าแห่งนี้นั้น เหล่าบรรดาโจรทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นโจรเล็ก โจรใหญ่ โจรที่ดีหรือโจรที่ชั่ว ก็จะคอยที่อยู่ในป่าแห่งนี้

เพื่อทำการปล้นคนที่นำสิ่งของเข้ามาในป่า ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นมากขึ้น จึงทำให้มีการสร้างถนนที่ดีผ่านช่องทางนี้ ถึงแม้ว่าเราจะเลี่ยงเส้นทางนี้ไม่ได้

แต่เราก็สามารถที่จะนำรถขับผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว การเดินทางรถมันปลอดภัยกว่า เพราะว่ายิ่งมีรถวิ่งมากเท่าไหร่ โจรที่อยู่บริเวณนั้นก็ไม่สามารถที่จะออกมาปล้นชาวบ้านที่เดินทางผ่านเส้นดงพญาเย็นนี้ได้เลย