ปรากฏที่ทำเอานักวิทยาศาสตร์ไม่มีคำตอบ?

หากพูดถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อยู่ไกลตัวหลายๆคนก็อาจจะคงนึกถึงรุ้งกินน้ำหรือไม่ก็ฟ่าแสบฟ้าผ่ากันใช่หรือไม่แต่ในบางครั้งธรรมชาติก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการทำปรากฏการณ์ให้เรานั้นได้เห็นปรากฏการณ์ที่สุดประหลาดต่างๆที่ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบไม่ได้เลย ซึ่งในบางทีสิ่งที่พวกคุณนั้นไม่เคยได้คิดฝันมาก่อนมันอาจจะเกิดขึ้นมาจริงแล้วก็ได้

ท้องฟ้าสีแดง

เราอย่าพึ่งตกใจไปว่าตอนนี้มันได้ถึงตอนอวสานของโลกเรา แต่สิ่งที่เรานั้นได้เห็นกันอยู่นี้มันได้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ได้เกิดขึ้นที่อินโดนีเซียเขาได้ออกมารายงานว่าปรากฏการณ์นี้มันเป็นของจริงและก็ไม่ได้มีการใส่ฟิลเตอร์ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนมันก็อาจจะเหมือนกับว่าเรานั้นได้ตกนรกได้เหมือนกัน ซึ่งทางด้านนักวิทยาศาสตร์ที่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ก็ได้ตกใจกันอยู่เหมือนกันเพราะว่ามันมองดูน่ากลัวเอาอย่างมากสาเหตุที่มันเกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดมาจากที่ใครคนหนึ่งเอาสีไปพ้นใส่

แต่อย่างใดเชื่อว่ามันอาจจะมาจากอนุภาพหมอกควันจากไฟป่าที่ได้เกิดขึ้นในช่วงนั้นมันจึงได้ทำให้ท้องฟ้าที่มันควรจะเป็นสีฟ้าได้กลายมาเป็นสีแดงก็ได้ นอกจากจะมองดูมืดฟ้ามัวดินแล้วยังได้ส่งผลต่อสภาพของอากาศอีกด้วย ซึ่งชาวบ้านที่ได้อยู่ในพื้นที่บริเวณนั้นก็ได้บอกกับเราว่าพวกเขานั้นได้มีอาการหายใจไม่สะดวกเลยและก็ยังได้มีความหวาดกลัวกับปรากฏการเหล่านี้ไม่น้อยหากมันแดงขนาดนี้สงสัยจะต้องไปเพิ่บุญให้อิ่มใจกันสะหน่อยแล้ว

ต้นยูคาลิปตัส สีรุ้ง

ธรรมชาติของต้มไม้มักจะมีกิ่งก้านและได้มีสีเปลือกออกน้ำตาลแต่ใครจะคดคิดได้ว่ามันจะมีต้นไม้ที่เป็นสีรุ้งอยู่จริงๆโดยมันได้เป็นต้นยูคาลิปตัส ซึ่งทางเราได้ยื่ยยันเลยว่าไม่ได้ใช่เทคนิคตัดต่อแต่อย่างใดหรือว่ามีใครไปแอบพ้นสีเอาไว้ซึ่งต้นไม้ดังกล่าวนี้มันได้เป็นของจริงที่สุดและด้วยมีสีสันที่สวยเหมือนกับยูนิคอนขนาดนี้

จึงได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักพุทธศาสตร์เองต่างก็ได้พากันงงเลยว่า มันได้มีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรแค่คิดว่ามันน่าจะเกิดมาจากธรรมชาติสร้างขึ้นมาในตอนแรกมันน่าจะเป็นสีเขียวสดพอเปลือกของต้นยูคาลิปตัสนั้นได้หลุดออกไปมันก็จะเปลี่ยนสีไปอีกซึ่งมันจะมีทั้งสีฟ้าสีม่วงสีส้นและสีแดงซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละส่วนนั้นมันหลุดออกไปพร้อมกันมันจึงได้ทำให้ทั้งต้มยูคาลิปตัสนั้นมีหลายสีอย่างกับศิลปะเลยก็ได้