หากใครที่เคยได้อ่านวรรณคดีหรือตำนานเกี่ยวกับพระนางสร้อยดอกหมากและพระเจ้าสายน้ำผึ้งจะรู้ว่าตำนานนั้นเป็นตำนานที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้เป็นการแต่งแต้มแต่อย่างใดซึ่งข้อมูลนี้ได้มีการบันทึกเอาไว้และมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์โดยมีนักโบราณคดีเป็นผู้ค้นพบซึ่งมีการค้นพบว่ามีการจารึกเอาไว้ในพงศาวดารเหนืออย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของพระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีการปกครองประเทศไทย
ในสมัยโบราณว่ากันว่าในยุคของพระเจ้าสายน้ำผึ้งนั้นเป็นยุคการปกครองของกรุงอโยธยาซึ่งยุคนั้นยังคงเป็นยุคก่อนที่จะมีพระเจ้าอู่ทองเกิดขึ้นนั่นเองอย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องของตำนานของพระเจ้าสายน้ำผึ้งได้มีการเล่ากันเอาไว้สืบต่อกันมาว่าในสมัยก่อนนั้นกรุงอโยธยาไม่มีพระมหากษัตริย์ปกครองเนื่องจากพระมหากษัตริย์องค์ราชสุดนั้นได้สิ้นพระชนม์ลงและไม่มีผู้สืบทอดราชสมบัติเราว่าพระองค์นั้นไม่มีลูกและไม่มีหลานเลยดังนั้นเมื่อบัลลังก์ว่างไม่มีใครที่จะมาเป็นพระมหากษัตริย์องค์ต่อไป
ทางด้านพวกข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ต่างก็เครียดจึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันว่าจะมีการแต่งตั้งไปขึ้นมาเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองบ้านเมืองแทนซึ่งมีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากว่าจะมีการแต่งตั้งใครในที่สุดก็ตัดสินใจกันได้ว่าจะใช้เป็นวิธีการสุ่มเสี่ยงทายเอาโดยจะมีการเอาเรือลอยไปตามคลองซึ่งเป็นเรือพระที่นั่งสำหรับพระมหากษัตริย์
โดยเฉพาะและถ้าหากเรือไปจอดที่บริเวณไหนก็ให้บุคคลนั้นเป็นพระมหากษัตริย์ขึ้นครองซึ่งทางด้านพวกข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ก็มีการปล่อยเรือเพื่อทำการเสี่ยงทายซึ่งเดือนนั้นก็รอไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ไปจอดอยู่ที่บริเวณกลางทุ่งนาโดยเหล่าข้าราชบริพารต่างก็เห็นว่าที่นั่นมีเพียงแค่เด็กเลี้ยงควายอยู่กันเท่านั้น
ซึ่งขณะที่เหล่าข้าราชบริพารเดินทางไปถึงนั้นกำลังเป็นช่วงที่เด็กๆเลี้ยงควายกำลังเล่นกันอยู่โดยตอนที่เด็กๆเล่นกันนั้นเป็นการเล่นเป็นพระมหากษัตริย์และกำลังสั่งประหารนักโทษซึ่งมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งรับบทเป็นพระมหากษัตริย์โดยมีการสั่งให้มีการฆ่านักโทษซึ่งวิธีการนั้นใช้เป็นการนำไม้มาสมมุติเป็นดาบแล้วสั่งตัดประหารรอแต่เกิดเรื่องน่าอัศจรรย์ขึ้นเมื่อไม้ที่ไม่ควรที่จะสามารถทำอันตรายเด็กได้เกิดตัดคอเด็กที่รับบทเป็นนักโทษคอขาดกระเด็นได้ทำให้เหล่าข้าราชบริพารนั้นตัดสินใจว่าจะเชิญตัวเด็กชายคนดังกล่าวที่รับบทเป็นพระมหากษัตริย์ขึ้นครองราชย์แทน
ระหว่างทางเด็กชายกำลังนั่งเรือกลับเพื่อจะเดินทางเข้าวังนั้นเด็กชายได้มองเห็นผึ้งรวงใหญ่เกาะอยู่แถวบริเวณช่อฟ้าดังนั้นจึงได้มีการตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าหากตนเองนั้นมีบุญญาธิการมากพอที่จะสามารถเป็นพระมหากษัตริย์ได้และสามารถที่จะปกครองบ้านเมืองให้เกิดความร่มเย็นได้ก็ขอให้มีน้ำผึ้งร่วงลงมาตรงบริเวณหัวเรือหลังจากสิ้นสุดคำอธิษฐานก็มีน้ำผึ้งหยดลงมาจริงๆซึ่งคนที่อยู่บนเรือที่เป็นข้าราชบริพารทั้งหลายต่างก็รู้ถึงความอัศจรรย์นี้จึงได้พากันตั้งชื่อพระองค์ใหม่ว่าพระเจ้าสายน้ำผึ้งและนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กชายคนนั้นก็ได้มาเป็นพระมหากษัตริย์ปกครองกรุงอโยธยา
สนับสนุนโดย aecasino