การเร่งปฎิกิริยาไฟฟ้าเข้าไปที่สมองมีแล้วนานแล้วใช่หรือไม่?

ซึ่งผลสรุปการทดลองเขาได้คาดกันว่าถ้าสมองของคนเราได้เร่ปฎิกิริยาไปถึง90%ถึง100%ได้มันอาจจะเกิดพลังงานในรูปแบบใหม่ขึ้นมาก็เป็นได้แต่ตรงนี้ขอบอกก่อนเลยว่ามันยังค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยากมากๆกับเหล่ามนุษย์คนเราในยุคปัจจุบันเพราะถ้าหากเกิดว่าเราลองคิดและเราลองยึดเอาการทดลองตรงนี้เอามาเป็นหลักให้คุณลองคิดดูว่าขนาดคนธรรมดาคนๆนี้ถูกเร่ง50-60%หัวสมองของเขายังรับไม่ไหว

และร่างกายของเขามันยังรับไม่ไหวเลยและสมมุติว่าถ้าเกิดว่าเรานั้นถูกดันไฟฟ้าไปถึง90-100%ร่างกายและสมองของคนเรามันจะเป็นยังไง ซึ่งแน่นอนเลยว่ายังไงร่างกายและสมองมันก็ต้องรับไม่ไหวถูกหรือไม่ ซึ่งตงจุดนี้ตามมุมมองของเรา ซึ่งเราได้คิดว่าในอนาคตอันใกล้ในช่วง10-20ปีถ้ามันยังได้มีการทดลองเรื่องของการเร่งปฎิกิริยาทางสมองอยู่

ซึ่งเราคิดว่ามันยังไม่น่าจะประสบความสำเร็จแต่มันอาจจะเห็นเค้าโครงมากขึ้นเรื่อยๆแต่ถ้าเกิดในอนาคตใกล้ๆนู้นเลยเราคาดได้เลยว่ามันเป็นไปได้ที่มนุษย์เราอาจจะถูกเร่งปฎิกิริยาทางสมองไป80-90%หรือมันอาจจะ100%และมันก็อาจจะเกิดพลังงานในรูปแบบใหม่ขึ้นมาก็เป็นได้ ซึ่งตรงจุดนี้มันค่อนข้างที่จะน่าสนใจมากๆแต่ในบางคนเขาก็ได้มองว่ามันคือการทดลองค่อนข้างที่จะผิดด้านจริยธรรมในด้านของมนุษย์ทั่วไป ซึ่งมันก็จะคล้ายๆกับการทดลองการนำยีนมนุษย์นำเข้าไปผสมกับสัตว์อะไรประมาณนี้มันก็อย่างที่เราได้บอกไปว่าวิทยาศาสตร์ทุกอย่างก่อน

ที่จะมีคำว่าประสบความสำเร็จล้วนจะต้องผ่านจุดที่จะต้องประสบความล้มเหลวและในการสูญเสียและในการเสียสละมาเยอะมาก่อนที่เขาจะมาถึงจุดๆนี้ได้ ซึ่งตรงจุดนี้เราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่านอนาคตของเรานั้นมันจะเป็นอย่างไงและในการทดลองเหล่านี้มันจะถูกทดลองขึ้นกลับมาอีกหรือเปล่าเราก็ต้องรอดูกันต่อไปแต่เราจะขอบอกว่าในการทดลองนี้มันไม่ได้มีแต่เพียงของต่างประเทศเท่านั้น

แต่ภายในประเทศไทยเรา ถ้าหากว่าเราได้ลองไปหาข้อมูลดีๆได้มีมหาลัยดังๆหลายมหาลัยที่ได้ทำการทดสอบพลังจิตที่มีลักษณะการทดลองที่มันคล้ายๆกับการทดลองครั้งนี้แต่มันไม่ได้มีการเร่งปฎิกิริยาของสมองหรือว่าในการใช้ไฟฟ้าในการกระตุ้นสมองแต่อย่างใดแต่เพียงแค่ว่าการสือสารในการส่งจิตการพูดในหัวเพื่อสื่อสารกับอีกคนหนึ่งมันได้มีการทดลองแบบนี้ออกมาจริงๆเมื่อประมาณปี1960ไม่ใช่จะมีแต่ของต่างประเทศในประเทศไทยเราก็ได้มีมานานแล้วเหมือนกัน